ฉีด Profhilo หรือ Botox ดีกว่ากัน? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับผิว
ในปัจจุบันที่หัตถการเสริมความงามบนใบหน้าได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย หลายคนเริ่มหันมาสนใจการฉีดเพื่อคงความอ่อนเยาว์และแก้ไขปัญหาผิว แต่บ่อยครั้งที่เกิดความสับสนว่าควรเลือกโปรแกรมProfhilo หรือ Botox ดี บทความนี้จะช่วยคลายข้อสงสัยและให้ข้อมูลที่จำเป็น เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกหัตถการที่ตอบโจทย์ความต้องการและสภาพผิวของคุณได้อย่างเหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่กำลังมองหาแนวทางการฟื้นฟูผิวที่ได้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและปลอดภัย
ทำความเข้าใจพื้นฐานของ Profhilo และ Botox
Profhilo ทำงานอย่างไร?
โปรแกรม Profhilo คือ นวัตกรรมใหม่ล่าสุดในการฟื้นฟูผิวที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากยุโรป จัดเป็น Bioremodelling ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวมให้ดีขึ้น Profhilo ประกอบด้วย Hyaluronic Acid (HA) บริสุทธิ์ ในความเข้มข้นสูงพิเศษ ซึ่งผ่านกระบวนการรวมโมเลกุลทั้งขนาดสูงและขนาดต่ำเข้าด้วยกัน ทำให้มีความคงตัวและสามารถกระจายตัวในชั้นผิวได้อย่างทั่วถึง เมื่อฉีดเข้าไปใต้ผิว Profhilo จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินตามธรรมชาติ รวมถึงดึงน้ำเข้าสู่เซลล์ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ยืดหยุ่น และเต่งตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพให้กลับมาเปล่งปลั่งมีชีวิตชีวา
Botox ทำงานอย่างไร?
โปรแกรม Botox หรือ Botulinum Toxin Type A เป็นสารที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า Botox ทำงานโดยออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเส้นประสาทที่ส่งสัญญาณไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัวและไม่สามารถหดเกร็งได้ชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัว ริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยตีนกา หรือรอยขมวดคิ้ว ก็จะค่อย ๆ จางลง ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ลง
Profhilo vs Botox ต่างกันยังไง
แม้ว่าทั้ง 2 โปรแกรมจะเป็นหัตถการที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยและฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ แต่ทั้งสองมีกลไกการทำงาน ส่วนประกอบหลัก และผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ส่วนประกอบหลักและกลไกการทำงาน
- โปรแกรมโปรฟิโล: ส่วนประกอบหลักคือ Hyaluronic Acid (HA) บริสุทธิ์ ทำงานโดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวโดยรวม ไม่ได้ออกฤทธิ์ที่กล้ามเนื้อ
- โปรแกรมโบท็อก: ส่วนประกอบหลักคือ Botulinum Toxin Type A ทำงานโดยการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว เพื่อลดริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
ด้านผลลัพธ์ที่ได้
- โปรแกรมโปรฟิโล: เน้นการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม ให้ผิวดูมีสุขภาพดี ชุ่มชื้น อิ่มฟู ยืดหยุ่น และลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เกิดจากผิวขาดน้ำหรือคอลลาเจนเสื่อมสภาพ ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่ดูเป็นธรรมชาติและอ่อนเยาว์ขึ้น
- โปรแกรมโบท็อก: เน้นการลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อ เช่น ริ้วรอยย่นหน้าผาก หว่างคิ้ว และหางตา ทำให้ผิวบริเวณนั้นดูเรียบเนียน
ลักษณะของริ้วรอยที่แก้ไข
- โปรแกรมโปรฟิโล: เหมาะสำหรับริ้วรอยเล็ก ๆ ทั่วใบหน้า ผิวแห้งกร้าน ขาดความยืดหยุ่น และผู้ที่ต้องการฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยรวมให้ดูสดใสเปล่งปลั่ง
- โปรแกรมโบท็อก: เหมาะสำหรับริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อโดยเฉพาะ เช่น ริ้วรอยลึกที่หน้าผาก รอยขมวดคิ้ว และรอยตีนกา
บริเวณที่นิยมทำ
- โปรแกรมโปรฟิโล: นิยมฉีดทั่วใบหน้าและลำคอ รวมถึงบริเวณมือและลำตัวที่ต้องการฟื้นฟูผิว
- โปรแกรมโบท็อก: นิยมฉีดบริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว หางตา และบริเวณอื่น ๆ ที่มีริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า
ระยะเวลาของผลลัพธ์
- โปรแกรมโปรฟิโล: ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- โปรแกรมโบท็อก: ผลลัพธ์โดยทั่วไปคงอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ฉีดและลักษณะการใช้งานกล้ามเนื้อของแต่ละบุคคล
เลือกแบบไหนให้เหมาะกับผิวของคุณ?
การตัดสินใจเลือกระหว่างโปรแกรม Profhilo และโปรแกรม Botox ควรพิจารณาจาก “ปัญหาผิว” และ “เป้าหมาย” ที่คุณต้องการเป็นหลัก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ฟื้นฟูสภาพผิวที่แห้ง ขาดน้ำ เริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ
หากคุณมีปัญหาผิวแห้งกร้าน ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวดูไม่สดใส เริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ ทั่วใบหน้า หรือต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวมให้ดูสุขภาพดีขึ้นโปรแกรมโปรฟิโลคือตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจาก จะช่วยเติมความชุ่มชื้นจากภายใน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น และเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ
หากคุณมีริ้วรอยลึก เช่น หน้าผาก หว่างคิ้ว หางตา
ในทางกลับกัน หากปัญหาหลักของคุณคือริ้วรอยลึกที่เกิดจากการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ เช่น รอยย่นที่หน้าผาก รอยขมวดคิ้ว หรือรอยตีนกาโปรแกรม Botox จะตอบโจทย์ได้ตรงจุดมากกว่า เนื่องจาก Botox จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้ริ้วรอยเหล่านี้คลายตัวและจางลง ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แล้วสามารถฉีด Profhilo และโบท็อกซ์พร้อมกันได้ไหม?
คำตอบคือ “สามารถฉีดพร้อมกันได้” และเป็นสิ่งที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญมักแนะนำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบและเป็นธรรมชาติมากที่สุด การฉีด Profhilo และ Botox ร่วมกันจะช่วยเสริมประสิทธิภาพของกันและกัน
โปรแกรมโปรฟิโลจะช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยรวม ทำให้ผิวชุ่มชื้น ยืดหยุ่น และดูมีสุขภาพดีจากภายใน
โปรแกรมโบท็อกจะเข้ามาจัดการกับริ้วรอยเฉพาะจุดที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อได้อย่างแม่นยำ
การใช้สองหัตถการนี้ร่วมกันจะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ ผิวดูสดใส อิ่มฟู และริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าก็ลดเลือนลง โดยที่ใบหน้ายังคงดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง
สรุป
ทั้งโปรแกรม Profhilo และโปรแกรม Botox ต่างก็เป็นหัตถการเสริมความงามที่มีข้อดีและวัตถุประสงค์ในการรักษาที่แตกต่างกัน การเลือกหัตถการที่เหมาะสมที่สุดขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการส่วนบุคคลของคุณ ทางที่ดีที่สุดคือการ ปรึกษาแพทย์โดยตรง เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินสภาพผิว ปัญหา และแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณ ที่ V Design Clinic เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบโปรแกรมการรักษาที่ตรงใจคุณ เพื่อผลลัพธ์ผิวสวยสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติที่คุณต้องการ