เปรียบเทียบ Sculptra vs Ultracol เลือกสารกระตุ้นคอลลาเจนแบบไหนให้ตรงใจ?
สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วงการความงาม หรือผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ คงเคยได้ยินชื่อโปรแกรม Sculptra และUltracolกันมาบ้างใช่ไหมคะ? ทั้งสองตัวนี้เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในฐานะ "สารกระตุ้นคอลลาเจน" หรือ Collagen Biostimulator ที่ช่วยให้ผิวสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ได้เองจากภายใน แต่ถึงแม้จะมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีรายละเอียดและกลไกการทำงานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การทำความเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าผลิตภัณฑ์แบบไหนที่ตอบโจทย์ผิวของคุณมากที่สุด
ทำความรู้จักโปรแกรม Ultracol และ Sculptra สารกระตุ้นคอลลาเจนคืออะไร
โปรแกรม Ultracol สารกระตุ้นคอลลาเจน คือสารที่เมื่อฉีดเข้าไปใต้ผิวแล้ว จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ได้เอง ซึ่งแตกต่างจากฟิลเลอร์ที่ใช้การเติมเต็มเพื่อเพิ่มปริมาตรทันที แต่สารกระตุ้นคอลลาเจนจะมุ่งเน้นที่การฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรงขึ้นจากภายใน ทำให้ผิวกลับมาดูสุขภาพดี อิ่มฟู และมีความยืดหยุ่นอย่างเป็นธรรมชาติ
ทำงานต่างกันอย่างไร?
โปรแกรมอัลตราคอล
สารกระตุ้นคอลลาเจนที่ใช้ส่วนประกอบหลักจากไหมน้ำ PDO (Polydioxanone) ซึ่งมีลักษณะเป็นทรงกลมขนาดเล็ก เมื่อฉีดเข้าไปใต้ผิว PDO จะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในบริเวณรอบ ๆ อนุภาค ทำให้ผิวโดยรวมดูแน่น ฟู และกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ มีความโดดเด่นในเรื่องของการยกกระชับและเพิ่มความหนาแน่นของผิว
โปรแกรมสกัลป์ทรา
ใช้ส่วนประกอบหลักจาก PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสามารถย่อยสลายได้เองและปลอดภัย เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว PLLA จะทำหน้าที่เข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่ผลิตคอลลาเจน ทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผิวแข็งแรงจากภายใน ริ้วรอยดูจางลง และผิวโดยรวมดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เรื่องอื่น ๆ ที่แตกต่างกัน
ส่วนประกอบหลัก: PDO vs. PLLA
- โปรแกรมอัลตราคอล : ใช้ PDO (Polydioxanone) ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้ในการเย็บแผลศัลยกรรม เป็นสารที่ร่างกายสามารถย่อยสลายได้เอง
- โปรแกรมสกัลป์ทรา : ใช้ PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งเป็นกรดจากธรรมชาติที่ร่างกายสามารถย่อยสลายได้เช่นกัน
ระยะเวลาเห็นผลและระยะเวลาคงอยู่ของผลลัพธ์
- โปรแกรมอัลตราคอล : จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในเรื่องของความแน่นฟูของผิวภายใน 1-2 สัปดาห์ และจะเห็นผลชัดเจนใน 1-3 เดือน ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง
- โปรแกรมสกัลป์ทรา : ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ปรากฏให้เห็นในช่วง 1-3 เดือนหลังฉีด และจะเห็นผลชัดเจนที่สุดในเดือนที่ 3-6 ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานถึง 2 ปี
จุดเด่นและบริเวณที่เหมาะสมในการฉีด
- โปรแกรมอัลตราคอล : เหมาะกับการฟื้นฟูผิวรอบดวงตา หน้าผาก และลำคอ ช่วยให้ผิวบริเวณที่บอบบางดูแน่นกระชับและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
- โปรแกรมสกัลป์ทรา : เหมาะกับการแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยที่เกิดจากการสูญเสียปริมาตรของใบหน้า เช่น บริเวณแก้ม ร่องแก้ม และบริเวณขมับ
ใครเหมาะกับ Ultracol และใครเหมาะกับ Sculptra
- โปรแกรมอัลตราคอล: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวรอบดวงตา หน้าผาก และลำคอ ต้องการให้ผิวดูแน่น ฟู และกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- โปรแกรมสกัลป์ทรา: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับปานกลางถึงมาก และต้องการแก้ไขปัญหาการสูญเสียปริมาตรของใบหน้าแบบองค์รวม
ข้อดี-ข้อเสียมีอะไรบ้าง
โปรแกรมอัลตราคอล
- ข้อดี: เห็นผลเร็วในเรื่องของความแน่นฟู, เหมาะกับบริเวณที่บอบบางอย่างใต้ตา, ไม่ต้องพักฟื้นนาน
- ข้อเสีย: ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่า, อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเติมเต็มปริมาตรในระดับมาก
โปรแกรมสกัลป์ทรา
- ข้อดี: กระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างล้ำลึก, ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานถึง 2 ปี, เหมาะกับการแก้ปัญหาการสูญเสียปริมาตร
- ข้อเสีย: เห็นผลช้ากว่า, จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวและดูแลหลังฉีดอย่างเคร่งครัด
สรุป
ทั้งโปรแกรม Ultracol และ Sculptra ต่างก็เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ก็มีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณจึงไม่ได้อยู่ที่ว่าผลิตภัณฑ์ตัวไหนดีกว่ากัน แต่อยู่ที่ว่าผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่เหมาะกับปัญหาผิวและเป้าหมายที่คุณต้องการมากที่สุด การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะแพทย์จะช่วยประเมินสภาพผิวของคุณอย่างละเอียด และแนะนำทางเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยอย่างแท้จริง