Scar Personalized
โปรแกรมรักษาหลุมสิวเฉพาะบุคคล
เพราะเราเข้าใจปัญหา จึงต้องออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล
เพราะ Vdesign Clinic ไม่ได้แค่ใช้เครื่องมือ แต่คือการวางแผนการรักษาที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ
แพทย์มีความเข้าใจปัญหาผิวที่มีความซับซ้อน ที่ไม่อาจแก้ได้ด้วย "เหมาโปรแกรมเดียว" จึงมุ่งเน้นการออกแบบและวางแผนการรักษาแบบ "เฉพาะบุคคล" จำเป็นต้องผสมผสานหลายเทคนิคหลายโปรแกรม
และหลายเครื่องมือในการรักษาหลุมสิว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ดังนั้น ประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์คือตัวกำหนดผลลัพธ์
กระบวนการเกิดหลุมสิว
- เริ่มจากสิวอักเสบ สิวที่มีเชื้อแบคทีเรียและหนองอยู่ภายใน (เช่น สิวอักเสบเม็ดใหญ่ หรือสิวหัวช้าง) หากไม่ได้รับการรักษาจะทำให้เชื้อลุกลาม
- การทำร้ายตัวเอง การ บีบ แกะ หรือกดสิว ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สิวอักเสบรุนแรงและเกิดหลุมสิวตามมาได้
- การสลายคอลลาเจน เมื่อเกิดการอักเสบ ร่างกายจะสร้างเอนไซม์ (คอลลาจีเนส) ออกมา ซึ่งเอนไซม์นี้จะไป สลายคอลลาเจน ที่เป็นโครงสร้างสำคัญของผิว ทำให้ผิวบริเวณนั้น ยุบตัวลง
- การดึงรั้งผิว หากการอักเสบลึกถึงชั้นผิวหนังด้านใน จะเกิดเป็น พังผืด ดึงรั้งผิวเอาไว้ ทำให้เกิดเป็นรอยบุ๋มหรือ หลุมสิว ถาวรในที่สุด
สรุป : หลุมสิว คือ ผลที่ตามมาจากสิวอักเสบที่รุนแรงและลึกถึงชั้นผิว ซึ่งทำให้คอลลาเจนถูกทำลายและเกิดพังผืดดึงรั้งผิวให้ยุบตัวลง
ประเภทหลุมสิว
- Box Scar หลุมกล่อง
หลุมลักษณะเป็นบ่อกว้าง ขอบปากหลุมชัดสี่เหลี่ยมคล้ายกล่อง ก้นหลุมไม่ลึกมาก ระดับความรุนแรงปานกลาง มักเกิดจากสิวอักเสบ หรือสิวอีสุกอีใส
- Rolling Scar หลุมแอ่ง
หลุมลักษณะเป็นคลื่น ที่เกิดจากการยุบตัวของผิวชั้นบนเล็กน้อย ก้นหลุมตื้น มักเกิดจากการแกะสิว
- Ice Pick Scar หลุมจิก
หลุมลักษณะก้นลึกที่สุดและปากแคบ ขอบหลุมชัด ก้นหลุมลึกแหลมคล้ายกรวย ระดับความรุนแรงสูงสุด มักเกิดจากการกดสิว หรือบีบสิวที่อุดตัน
รักษาหลุมสิว วิธีไหนดี?
การรักษาหลุมสิว ไม่มีวิธีเดียวที่ใช้ได้กับทุกคน เพราะผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
- ประเภทของหลุมสิว หลุมสิวแต่ละแบบ เกิดจากสาเหตุที่ต่างกัน จึงต้องเลือกวิธีรักษาที่จำเพาะเจาะจง
- ความลึก-ตื้น ระดับความลึกของหลุมสิวมีผลต่อ วิธีการรักษาและระยะเวลาเห็นผล
- ความคาดหวัง วิธีรักษาบางอย่างเห็นผล เร็ว แต่อาจต้องทำต่อเนื่อง ส่วนบางวิธีอาจต้องใช้ เวลา ในการกระตุ้นคอลลาเจนให้เต็มขึ้น
โปรแกรมรักษาหลุมสิวเฉพาะบุคคล Scar Personalized
ที่ Vdesign Clinic
แพทย์วิเคราะห์ ประเมิน วางแผนรักษาตรงจุด และอธิบายรายละเอียดการรักษาอย่างชัดเจน เพื่อให้คุณเข้าใจและร่วมตัดสินใจในทุกขั้นตอนการดูแล เพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
1. รักษาหลุมสิวด้วยโปรแกรมเลเซอร์
เลเซอร์ คือหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุดและเป็นวิธีพื้นฐานที่สำคัญในการกระตุ้นให้ผิวสร้างเนื้อเยื่อใหม่เพื่อเติมเต็มหลุมสิวให้กลับมาเรียบเนียน เลเซอร์จะทำงานโดยการส่งพลังงานเข้าไป
กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนใหม่ ในผิวชั้นลึกอย่างถาวร เพื่อให้หลุมสิวค่อยๆ ตื้นขึ้น โดยแพทย์จะเป็นผู้แนะนำ ชนิดของเลเซอร์ที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละเคส เพราะแต่ละเครื่องมือจะมี
ความสามารถในการลงลึกและการสร้างแผล (หรือไม่สร้างแผล) ที่แตกต่างกัน
1.1 Picosecond Laser
โหมด Fractional ที่สามารถกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้หลุมสิว แพทย์ปรับค่าพลังงานตามประเภทหลุมสิว
ข้อดีคือสามารถลดรอยแดง รอยดำ ของหลุมสิวร่วมด้วยได้ เหมาะสำหรับหลุมสิวที่ความลึกไม่มาก
1.2 Matrix RF
เลเซอร์ชนิด Fractional RF ปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุลงผิวชั้นตื้นโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ฟื้นฟูผิวแบบไม่ต้องพักฟื้นนานเหมือนเลเซอร์ชนิดลอกผิว
2. การเซาะพังผืดหลุมสิว (โปรแกรม Subcision)
การเซาะพังผืด (Subcision) เปรียบเสมือนการปลดปล่อยผิวที่ถูกดึงรั้งอยู่ ทำให้ผิวมีโอกาสสร้างเนื้อเยื่อใหม่มาเติมเต็มหลุมสิวได้อย่างถาวร เหมาะสำหรับหลุมสิวที่ฝังลึกและเป็นมานาน โดยเฉพาะหลุมสิวชนิด Rolling Scar และ Box Scar
หลักการทำงาน
เทคนิคนี้ใช้ เข็มพิเศษ สอดเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อ ตัดหรือเลาะพังผืด ที่เกาะยึดดึงรั้งผิวหนังชั้นบนให้เป็นหลุมอยู่ เมื่อพังผืดถูกตัดออก ผิวที่ถูกดึงก็จะคลายตัวและยกขึ้น
หลังเซาะพังผืดในบางกรณี แพทย์จะแนะนำให้เติม Hyaluronic Acid (HA) หรือสารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator เข้าไปในบริเวณที่ตัดเซาะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดพังผืดใหม่ และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้เต็มหลุมสิวได้ดียิ่งขึ้น
3.โปรแกรมฟิลเลอร์เติมหลุมสิว
เติมเต็มหลุมสิวด้วยสารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เติมให้หลุมดูเต็มตื้นขึ้น และยังมีส่วนช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน
4.รักษาหลุมสิวด้วย โปรแกรม Ultracol SCAR (Biostimulator)
การใช้สารกระตุ้นคอลลาเจน หรือ Biostimulator โดยการใช้ตัวยา Ultracol 100 (รุ่นสำหรับฉีดกระตุ้นเติมหลุมสิว ร่องริ้วรอย)ฉีดเพื่อรักษาหลุมสิว จากงานวิจัยล่าสุดปี 2025 การฉีด Biostimulator ควบคู่กับการทำ Subcision กระตุ้นเนื้อเยื่อใต้หลุมสิวให้สร้างใหม่ ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น ซึ่งใช้เทคนิคสำหรับฉีดกระตุ้นเติมหลุมสิวโดยเฉพาะ ต่างจากการฉีดเพื่อชะลอวัยผิวทั่วไป ดังนั้นจึงควรเลือกคลินิกที่มีประสบการณ์ในด้านรักษาหลุมสิวโดยเฉพาะ
5. รักษาด้วยโปรแกรม Microneedling
การใช้เข็ม Microneedling คือวิธีการรักษาหลุมสิวโดยใช้ เข็มขนาดเล็กมาก เจาะลงบนผิวอย่างเบามือ การเจาะด้วยเข็มนี้จะสร้างบาดแผลขนาดจิ๋ว เพื่อกระตุ้นกลไกการซ่อมแซมตัวเองของผิว ผลลัพธ์คือผิวจะถูกเร่งให้ สร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อ ให้ผิวกลับมาแข็งแรงและตื้นขึ้น โดยแพทย์จะเป็นผู้กำหนดความลึกของการแทงเข็ม (ประมาณ 1.5 – 2 มิลลิเมตร) โดยอิงจากความลึกของหลุมสิวในแต่ละบุคคล การใช้ Microneedling มีเป้าหมายคล้ายกับการใช้เลเซอร์ คือการกระตุ้นเนื้อเยื่อใหม่ แต่ไม่ได้ใช้พลังงานความร้อนร่วมด้วย
6. รักษาด้วยโปรแกรม SKIN BOOSTER กลุ่ม PN (Polynucleotide)
เป็นเทรนด์ใหม่ที่ได้รับความนิยม เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ฟื้นฟูผิวจาก “ระดับเซลล์”
คือการรักษาโดยใช้ สารสกัดจาก DNA ของปลาแซลมอน (ใกล้เคียงกับ PDRN แต่มีความเข้มข้นสูงกว่า) ทำหน้าที่กระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิว ฟื้นฟูคอลลาเจน อีลาสติน และกระตุ้นกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ในผิว
เพราะหลุมสิวเกิดจาก “การขาดคอลลาเจน” ใต้ผิว PN จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ เติมเต็มผิวจากภายใน
- กระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย
- ฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนขึ้น
- ผิวแข็งแรง ชุ่มชื้น และดูอิ่มฟู
- เหมาะกับคนที่ไม่อยากพักฟื้นนาน (Recovery time น้อยมาก)
มักใช้เทคนิค mesotherapy / micro-needling / injector gun เพื่อให้ PN ซึมเข้าสู่ผิวในระดับที่เหมาะสม สามารถทำควบคู่กับเลเซอร์หลุมสิว เช่น Pico, Fractional, Potenza เพื่อเสริมผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้น
เลือกคลินิกรักษาหลุมสิวที่ไหนดี?
การรักษาหลุมสิวแต่ละคลินิกผลลัพธ์ต่างกัน เนื่องจากการวิเคราะห์ปัญหา การวางแผนการรักษา การเลือกใช้โปรแกรมการรักษา และเทคนิคที่เลือกใช้ในแต่ละคลินิกแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับแพทย์ที่ทำการรักษา ฉะนั้น ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำการรักษามีผลต่อการรักษาโดยตรง
ดังนั้นการรักษาหลุมสิว ไม่ใช่ปัญหาที่จะรักษาได้ด้วยโปรแกรมเดียว ต้องรักษาแบบวางแผนเฉพาะบุคคล Scar Personalized เพราะหัวใจสำคัญของการรักษาอยู่ที่ความแม่นยำในการวิเคราะห์ปัญหา
เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพที่สุด
รักษาหลุมสิว ที่ Vdesign Clinic ทำไมผลลัพธ์จึงแตกต่าง?
1. เทคนิคเฉพาะบุคคล วิเคราะห์ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน และวางแผนการรักษาที่ตอบโจทย์เฉพาะ ตามประเภทของหลุมสิว เพื่อการดูแลที่แม่นยำและเหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ
2. เทคโนโลยีที่ทันสมัย ให้บริการด้วยเครื่องมือแพทย์ เครื่องเลเซอร์ ตัวยาหัตถการฉีด รวมถึงเทคนิคต่างๆ ที่เลือกใช้ ที่ได้รับการรับรอง สถานพยาบาลได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย
3. แพทย์มากประสบการณ์ วางแผนแม่นยำ วิเคราะห์ ประเมิน และอธิบายรายละเอียดการรักษาที่ซับซ้อนอย่างชัดเจน เพื่อให้คุณเข้าใจและร่วมตัดสินใจในทุกขั้นตอนการดูแล เพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
รีวิวการรักษาหลุมสิว ที่ Vdesign Clinic
Q : หลังรักษาหลุมสิว จะกลับมาเป็นอีกไหม
A : หลุมสิวที่รักษาจนดีขึ้นแล้วจะดีขึ้นถาวร แต่คุณควรป้องกันการเกิดสิวใหม่ ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อไม่ให้เกิด หลุมสิวใหม่ ตามมาอีกในอนาคต
Q : หลุมสิว เกิดจากอะไร?
A : เกิดจากสิวอักเสบที่รุนแรง ทำให้ คอลลาเจน ถูกทำลายและเกิดพังผืดดึงรั้งผิวให้ยุบตัวลง
Q : หลุมสิว แบบไหนที่รักษายากที่สุด?
A : มักเป็น Ice Pick Scar (หลุมสิวแคบ ลึก คล้ายรอยจิก) และหลุมสิวที่มีพังผืดดึงรั้งมาก
Q : เลเซอร์ รักษา หลุมสิว ได้จริงไหม?
A : ได้จริง เลเซอร์ช่วย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และเนื้อเยื่อถาวร ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้
Q : Subcision คืออะไร?
A : คือการใช้เข็มพิเศษ เซาะพังผืด ใต้หลุมสิว เพื่อคลายผิวที่ถูกดึงรั้ง ทำให้หลุมสิวมีโอกาสเติมเต็ม
Q : E-Matrix รักษา หลุมสิว ดีอย่างไร?
A : เป็นเทคโนโลยีคลื่นวิทยุ (RF) ที่ กระตุ้นคอลลาเจน ได้ลึก โดยไม่ต้องพักฟื้นนานเท่าเลเซอร์ลอกผิว
Q : ต้องทำกี่ครั้ง ถึงจะเห็นผล?
A : ส่วนใหญ่มักเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำ 3-5 ครั้ง ขึ้นอยู่กับชนิดและความลึกของ หลุมสิว
Q : รักษาหลุมสิว เจ็บไหม?
A : มีอาการเจ็บเล็กน้อย แต่แพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ เพื่อให้รู้สึก สบายที่สุด ระหว่างทำหัตถการ
