โปรแกรม Profhilo ช่วยฟื้นฟูผิว กระตุ้นคอลลาเจน และปรับโครงสร้างผิวใหม่ 3 ระดับชั้น
โปรแกรม Profhilo ช่วยฟื้นฟูผิว กระตุ้นคอลลาเจน และปรับโครงสร้างผิวใหม่ 3 ระดับชั้น
สารบัญ
- โปรแกรม PROFHILO คืออะไร?
- จุดเด่นของโปรแกรม PROFHILO
- โปรแกรม PROFHILO ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง ฉีดอย่างไร
- Profhilo ต้องฉีดกี่ครั้ง
- Profhilo กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน
- เปรียบเทียบ โปรแกรม PROFHILO กับ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ หรือ โปรแกรม Biostimulator
- โปรแกรม PROFHILO เหมาะกับใคร
- การดูแลก่อนฉีด Profhilo
- การดูแลหลังฉีด Profhilo
- รีวิว โปรแกรม PROFHILO
- FAQ คำถามที่พบบ่อย
- โปรโมชั่นเปิดตัว !! โปรแกรม PROFHILO
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ผิวของเราจะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ เช่น โครงสร้างผิวเสื่อมลง เซลล์ต่างๆ ทำงานน้อยลง คอลลาเจนและอีลาสตินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อย ริ้วรอย และความไม่เรียบเนียน การดูแลปัญหาเหล่านี้ โดยพิจารณาถึงการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว อาจเป็นแนวทางที่ มีส่วนช่วยดูแลปัญหาที่ต้นตอ (Bio - Remodeling) อาจช่วยสนับสนุนให้โครงสร้างผิว แข็งแรงขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สังเกตเห็นได้ เช่น ผิวแลดูมีสุขภาพดีขึ้น แลดูเต่งตึงขึ้น และช่วยให้ผิวโดยรวม แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น
โปรแกรม PROFHILO คืออะไร?
โปรแกรมฉีด PROFHILO คือ การฟื้นฟูและปรับโครงสร้างผิวในทุกชั้น (Skin remodeling) ด้วยการฉีดสาร Hyaluronic Acid (HA) ที่มีความเข้มข้นสูงเป็นการรวมโมเลกุล HA สองขนาด (โมเลกุลใหญ่และเล็ก) เข้าด้วยกันโดยปราศจากสารเติมแต่ง (Non-Cross Linking) ที่ผ่านเทคโนโลยีพิเศษ NAHYCO Hybrid Technology ทำให้ได้สารที่บริสุทธิ์สูงและกระจายตัวได้ดีในผิว ทำให้ได้ผลลัพธ์มากกว่าแค่ยกกระชับ ด้วยการปรับสมดุลผิวทั้ง 3 ระดับชั้น เติมความชุ่มชื้น กระตุ้นคอลลาเจน กระชับผิวให้อิ่มฟู ในขั้นตอนเดียว
จุดเด่นของโปรแกรม PROFHILO
- เป็นสาร HA ที่มีความเข้มข้นสูงถึง 64 มิลลิกรัม (32 มก. โมเลกุลใหญ่ + 32 มก. โมเลกุลเล็ก)
- ฉีดในจุดเฉพาะที่เรียกว่า Bio Aesthetic Points (BAP) เพื่อให้ HA กระจายตัวทั่วถึงและเพิ่มประสิทธิภาพฟื้นฟูผิว เทคนิค ฉีดเพียง 5 จุดต่อใบหน้า 1 ข้าง (เทียบกับฟิลเลอร์งานผิวอื่น ๆ ที่ต้องฉีดอย่างน้อย 30 จุด/ข้าง) จึงเป็นการฉีดที่เจ็บน้อยกว่า ช้ำน้อยกว่า การฉีดอื่น ๆ
- ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว ได้ทุกระดับชั้น ตั้งแต่ลึกถึงตื้น จึงเรียกสารนี้ว่า Bio-Remodeling
- ช่วยเติมความชุ่มชื้นผิวฉ่ำวาว และกระตุ้นคอลลาเจนผิวกระชับ
- ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย และฟื้นฟูโครงสร้างผิว ได้ทั้งใบหน้า และลำคอ จากคุณสมบัติของยาที่นิ่ม ไม่เป็นก้อน และกระจายตัวได้ดี
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น จาก HYA เข้มข้น จึงช่วยให้ผิวดูชุ่มชื่น สะท้อนแสง เรียบเนียน แก้ปัญหาผิวแห้งขาดน้ำ
- ช่วยรักษารอยแผลเป็น หลุมสิว และปัญหาผิวชั้นนอกได้ด้วย จากการกระตุ้นเซลล์ Keratinocyte ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่แตกต่างชัดเจนจากยาฉีดชนิดอื่น ๆ
โปรแกรม PROFHILO ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง ฉีดอย่างไร
- ใบหน้า ใช้เทคนิคฉีด 5 จุด (5-points BAP technique)
- ลำคอ ใช้เทคนิคฉีด 10 จุด (10-points BAP technique)
Profhilo ต้องฉีดกี่ครั้ง
โดยทั่วไปแนะนำให้ฉีด Profhilo 2 ครั้ง ห่างกันประมาณ 4 สัปดาห์ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินอย่างเต็มที่และให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สำหรับผู้มีปัญหาผิวเสื่อมสภาพมาก แพทย์อาจแนะนำให้ฉีดครั้งที่ 3 หลังจากครั้งที่สองประมาณ 2 เดือน หลังจากนั้น ควรฉีดซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ทุก 4-6 เดือน หรือตามคำแนะนำแพทย์ ซึ่งขึ้นกับสภาพผิว อายุ และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
Profhilo กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน
เริ่มเห็นผลเล็กน้อยภายใน 1-2 สัปดาห์ หลังฉีดครั้งแรก ผิวจะชุ่มชื้นและดูมีน้ำมีนวลขึ้น ผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดจะเห็นประมาณ 4-6 สัปดาห์หลังฉีดครั้งที่สอง เพราะ Profhilo ได้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินเต็มที่ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-9 เดือน แต่ระยะเวลานี้อาจแตกต่างตามอายุ สภาพผิว และไลฟ์สไตล์ เช่น การดูแลผิว แสงแดด หรือการสูบบุหรี่
เปรียบเทียบ โปรแกรม PROFHILO กับ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ หรือ โปรแกรม Biostimulator
โปรแกรม PROFHILO เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ต้องการดูแลผิวเพื่อชะลอวัยและป้องกันการเสื่อมสภาพของผิว
- ผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น และดูหมองคล้ำ
- ผู้ที่เริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ หรือต้องการปรับโครงสร้างผิวให้กระชับและยืดหยุ่นขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับเบื้องต้นถึงปานกลาง ต้องการให้ผิวแน่นกระชับโดยไม่เปลี่ยนรูปหน้า
- ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง หลุมสิว หรือรอยแผลเป็น ต้องการให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพผิวโดยรวม ให้ผิวดูเปล่งปลั่ง อิ่มฟู และมีความชุ่มชื้นในทุกชั้นผิว
- ผู้ที่เคยใช้สารกระตุ้นคอลลาเจนอื่น ๆ เช่น โปรแกรม Sculptra , โปรแกรม Radiesse , โปรแกรม Ultracol และต้องการแก้ไขผิวชั้นตื้นเพิ่มเติม
- ผู้ที่ต้องการวิธีฟื้นฟูผิวที่ไม่ต้องพักฟื้น และไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปหน้าหรือโครงสร้างใบหน้า
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวบาง ขาดความยืดหยุ่น และต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินอย่างต่อเนื่อง
สรุปคือ โปรแกรม PROFHILO เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง กระชับ เรียบเนียน และชุ่มชื้นขึ้น โดยไม่ทำให้รูปหน้าผิดรูป เหมาะกับทุกวัยตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะกลุ่มที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยเล็ก ๆ หรือผิวขาดน้ำอย่างชัดเจน
การดูแลก่อนฉีด Profhilo
เพื่อให้การรักษาเห็นผลดีที่สุดและปลอดภัย ควรเตรียมผิวและร่างกายอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำเหล่านี้
1. หลีกเลี่ยงยาและอาหารเสริมบางชนิด
ก่อนเข้ารับการฉีด Profhilo ควรงดใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน รวมถึงอาหารเสริมบางประเภทที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงและช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ควรงดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เพราะแอลกอฮอล์สามารถทำให้หลอดเลือดขยายตัว และเพิ่มโอกาสเกิดรอยช้ำหรือบวมหลังฉีด Profhilo ได้
การดูแลหลังฉีด Profhilo
หลังการฉีด Profhilo การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมมีส่วนช่วยให้ผลลัพธ์ชัดเจนและปลอดภัยมากขึ้น ควรดูแลดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการนวด
หลังฉีด Profhilo ควรงดการนวดหรือกดทับผิวบริเวณที่ได้รับการฉีดอย่างน้อย 24 - 48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการกระจายของสาร และลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบวม
2. งดใช้ผลิตภัณฑ์ระคายเคืองผิวบางชนิด
หลังฉีด Profhilo ไปแล้วควรงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารระคายเคือง เช่น กรดผลไม้หรือสารที่มีความเป็นกรดสูง เพื่อช่วยลดการระคายเคืองและให้ผิวฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
3. ดื่มน้ำมากขึ้น
ควรดื่มน้ำมากขึ้นเพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและช่วยกระตุ้นการทำงานของ Profhilo ให้เห็นผลได้ดีขึ้น
4. สังเกตอาการผิดปกติ
หากพบอาการผิดปกติ เช่น บวมแดงอย่างรุนแรง ปวดมาก หรือมีตุ่มน้ำ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อรับคำแนะนำและดูแลอย่างเหมาะสม
รีวิว โปรแกรม PROFHILO
FAQ คำถามที่พบบ่อย
Q : โปรแกรม PROFHILO ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน
A : โปรแกรม PROFHILO ควรฉีดอย่างน้อย 2 ครั้ง โดยแต่ละครั้งใช้ปริมาณ 2 cc (1 หลอด) และเว้นระยะห่างระหว่างการฉีดครั้งแรกกับครั้งที่สองประมาณ 1 เดือน เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูผิวอย่างเต็มที่
ในกรณีที่มีปัญหาผิวมาก เช่น ผิวหย่อนคล้อยมาก หรือมีหลุมสิว แพทย์อาจแนะนำให้ฉีดเพิ่มเป็น 3 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและต่อเนื่องยิ่งขึ้น
หลังจากทำครบคอร์สแล้ว ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวของแต่ละบุคคล
Q : นานแค่ไหนถึงจะเห็นผล
A : ผลลัพธ์หลังการรักษา จะดีขึ้นตั้งแต่ 1 เดือนแรก และจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวของแต่ละบุคคล)
Q : จะมีผลข้างเคียงใดหรือไม่
A : อาจจะมีอาการบวมแดง ภายในระยะเวลา 2-3 ชั่วโมงหลังทำการรักษา แต่อาการดังกล่าวจะค่อยๆ ดีขึ้น โดยจัดเป็นอาการปกติของการทำโปรแกรมฉีด PROFHILO
Q : Profhilo ต้องฉีดกี่หลอด
A : - โดยทั่วไปหากฉีดเฉพาะใบหน้า จะฉีดประมาณ 2 หลอด (2 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน) - หากฉีดบริเวณใบหน้าและลำคอ จะฉีดประมาณ 4 หลอด (2 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน) - กรณีปัญหาผิวรุนแรงอาจเพิ่มเป็น 3 ครั้ง (รวม 3 หลอด)
ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
โปรโมชั่นเปิดตัว !! โปรแกรม PROFHILO